รีวิว Opensea ตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดบนโลกของ Blockchain
Opensea เป็นตลาดซื้อขายและแลกเปลี่ยน NFT ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในบรรดา NFT Marketplace ด้วยกัน คุณสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT ได้เพียงแค่มี Crypto wallet อย่าง Metamask ที่ Opensea คุณสามารถซื้อและขายงาน NFT ที่คุณมีด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า Marketplace เจ้าอื่น ๆ อีกทั้งยังรองรับถึง 3 เครือข่าย ได้แก่ Ethereum, Polygon และ Klaytn เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมาก ๆ ที่หนึ่งเลย
Opensea ทำงานอย่างไร?
Opensea นั้นเป็นตลาดประเภท Decentralized Marketplace หรือก็คือตลาดที่ทำงานแบบไร้ตัวกลาง ทุก ๆ ธุรกรรมจะดำเนินบน Blockchain ที่ควบคุมด้วยโค้ดคอมพิวเตอร์ที่มีเรียกว่า Smart Contract ทำให้การซื้อขาย NFT บนแพลตฟอร์มนี้มีความโปร่งใส ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ
Opensea อนุญาตให้ใครก็ได้สามารถสร้าง NFT ของตัวเองบนแพลตฟอร์มนี้โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายในการสร้างแม้แต่บาทเดียว โดยแพลตฟอร์มนี้รองรับ NFT ทั้งหมด 2 มาตรฐานได้แก่ ERC721 และ ERC1155 ทำให้คุณสามารถนำ NFT จากที่ไหนมาขายบนแพลตฟอร์มนี้ก็ได้หาก NFT ของคุณนั้น มีมาตรฐานเดียวกับที่ Opensea กำหนด
ประเภทของ NFT บน Opensea
ปัจจุบันมี NFT มากกว่า 20 ล้านชิ้นถูกวางขายอยู่บนตลาดของ Opensea ตลาด NFT ส่วนใหญ่มักเลือกที่จะโฟกัส NFT เพียงประเภทเดียว แต่ Opensea นั้นกลับเลือกที่จะเปิดรับ NFT ให้หมดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น งานศิลปะ, โดเมนเว็บไซต์, โลกเสมือน, การ์ดเกม, และของสะสม นอกจากนั้นยังมี Token ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและ Token ที่สามารถนำไปใช้งานจริง ๆ ขายด้วยนะ (เรียกได้ว่ามีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบสมชื่อ Opensea จริง ๆ)
Art — มีงานศิลปะมากมายที่ถูกขายอยู่บน Opensea ทุกคนสามารถเป็นนักสะสมได้ง่าย ๆ เพียงแค่ซื้อมันมาเก็บไว้ และในทางหนึ่งใครก็สามารถสร้างงานศิลป์ของตัวเองได้ เพียงแค่นำผลงานของตัวเองที่มี Mint บน Opensea ด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นมีผลงานประเภท hash marks โปรเจค NFT ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง 16,384 ชิ้น ด้วยความร่วมมือจากศิลปินทั่วโลกทั้งหมด 70 คน
Virtual worlds — NFT ประเภทโลกเสมือนเป็น NFT ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์มของ Opensea เป็น NFT ที่มีความพิเศษกว่าประเภทอื่น ๆ มาก ๆ เจ้าของสามารถนำงานศิลปะของตัวเองไปจัดแสดงในโลกเสมือนที่ตัวเองมีได้ และเข้าไปใช้ชีวิตและสร้างสิ่งปลูกสร้างในนั้นได้เสมือนเป็นโลก ๆ หนึ่งของตัวเอง
Collectables — ของสะสมบน Blockchain มีทั้งแบบที่เก็บสะสมได้อย่างเดียว และสามารถนำไปเล่นเกมได้ด้วย เช่น JOYWORLD JOYs, Axie Infinity และ CryptoKitties
Sports — วงการกีฬาเองก็ประสบความสำเร็จในด้านการทำ NFT ด้วยเช่นกัน ตัวอย่าง NFT สายกีฬาที่กำลังมาแรงมาก ๆ ก็เช่น NBA Top Shot ที่นำโมเมนท์เด็ด ๆ ของนักกีฬาบาสเกตบอลมา Mint เป็น NFT ให้คนทั่วไปได้สะสมกัน น่าเสียดายบน Opensea ไม่มี NBA Top Shot ขาย มีแต่เพียง Sorare การ์ดสะสมนักฟุตบอล
Utility — Opensea เปิดพื้นที่ให้นักพัฒนาเปิดขาย Token ที่สามารถนำไปใช้งานในแพลตฟอร์มของตัวเองได้หรือมีแผนที่จะนำไปใช้ในอนาคตได้ เพื่อจุดประสงค์ในการระดมทุน เช่น POAP, Urbit ID และ Polyient
Trading cards — ลองนึกภาพการ์ดเกมสุดฮิตอย่าง Yu Gi Oh ที่เราเคยเล่นกันตอนเด็ก ๆ เพียงแต่นำมาเล่นกันบน Blockchain และสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนบน Opensea ตัวอย่างที่คล้าย ๆ แบบนี้ Opensea ก็มีขายเช่นกันชื่อ Gods Unchained
Domain names — บนโลกของ Blockchain ก็มี Domain ให้เราซื้อด้วยเช่นกัน โดยบน Ethereum เราจะเรียกว่า ENS หรือ Ethereum Name Service
ข้อดีของการใช้งาน Opensea
- มี iOS App
- Login ด้วย Crypto Wallet ซึ่งปลอดภัยมาก
- มี NFT ให้เลือกซื้อหลากหลาย
- รองรับระบบการประมูลที่สามารถกำหนดค่าได้
- ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดสักบรรทัด
- ตัวโค้ดของ NFT บน Opensea มีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ
- ค่าธรรมเนียมต่ำเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง Nifty Gateway
- เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ มีองค์กรขนาดใหญ่คอยดำเนินงาน
ข้อเสียของการใช้งาน Opensea
- ต้องใช้ Crypto Wallet ในการจ่ายเงินเท่านั้น
- Customer Support มีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้งาน
พอจะเห็นภาพการทำงานของ Opensea กันบ้างแล้วใช่ไหมครับ สำหรับบทความหน้าเราจะพูดถึงการซื้อขาย และ Mint NFT บน Platform ของ Opensea กันครับ ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาในบทความนี้สามารถส่งคำถามมาที่เพจ Nuttakit Kundum — ณัฐกิตติ์ ขุนดำ ได้เลยครับ